iPhone X ณ ตอนนี้ จัดได้ว่าเป็นมือถือที่แปลกใหม่ที่สุด ใครจะไปคาดคิดว่าวันหนึ่ง iPhone จะไม่มีปุ่มโฮม แถมทำติ่งยื่นออกมา กล้องหลังถูกจัดวางเป็นแนวตั้ง แต่รวมๆมันก็ดูหรูหรามากขึ้น

เริ่มที่ 41,000 บาท แพงไหม ?

จริงๆราคาก็เท่าๆกับ Note 8 เลยนะ $999 คิดเป็นเงินไทยก็ 3 หมื่นกว่าบาท ถ้าขายราคานี้คิดว่าไม่แพง

แต่พอโดนภาษีนำเข้า แล้วเริ่มที่ 41,000 บาท ก็เลยรู้สึกว่าแพง ราคาระดับนี้ต้องใจรักจริงๆ

แต่เชื่อเถอะว่า คนที่ซื้อ iPhone X หลายคน เขารู้ข่าวและเก็บเงินรอรุ่นนี้กันมานานแล้ว

..ส่วนตัววางแผนซื้อเครื่องนี้ตั้งแต่ต้นปี พอรู้ว่าจะมีรุ่นพิเศษ เตรียมเงินไว้รอแต่เนิ่นๆแล้ว จึงไม่ได้เดือดร้อนเป็นหนี้เพิ่มอย่างใด

มีความพรีเมี่ยม

iPhone X มาพร้อมกับฝาหลังกระจก ขอบเครื่องเป็นเงาวับ ดูหรูกว่าไอโฟนทุกรุ่น มีความพรีเมี่ยมมากกว่า iPhone 8 อยู่หน่อยๆก็ตรงขอบนี่แหล่ะ

ข้อดีของการใช้ฝาหลังกระจก คือไม่น่าจะมีปัญหาสีลอกเหมือนรุ่นอื่นๆ ในส่วนของขอบเครื่องที่เป็นเงาวับ ไม่แน่ใจว่าอนาคตมันจะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่

หน้าจอฟูลวิว + ไร้ปุ่มโฮม

iPhone ที่ไม่มีปุ่มโฮม มันคือประสบการณ์ที่ใหม่มากจริงๆ วิธีควบคุมเมนูหลายๆอย่างจะทำแบบเดิมไม่ได้ บางอย่างรู้สึกว่าทำให้ชีวิตง่ายขึ้น

และบางอย่างก็ซับซ้อนเกินไป

ส่วนตัวเคยใช้มือถือ Android ที่ไร้ปุ่มโฮมมานานแล้ว แต่ระบบเขาจะมีแถบนำทางด้านล่าง กดออก กดสับแอพ ก็สะดวกดี

แต่ iPhone จะใช้วิธี “ปัดหน้าจอ”(Swipe) นับการเป็นใช้งานอีกแนวคิดหนึ่ง คนที่ใช้ iOS มานานยังต้องปรับตัว

ขนาดหน้าจอ 5.8 นิ้ว ถือว่าใหญ่กว่า iPhone 8 Plus ที่มี 5.5 นิ้ว แต่ตัวเครื่อง iPhone X จะเล็กกว่า เพราะไม่มีขอบเครื่อง

และแม้ว่าจะเปลี่ยนมาใช้จอ OLED แต่การแสดงสี ยังให้ความเป็นธรรมชาติเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรองรับ HDR และเทคโนโลยี TrueTone จะปรับอุณภมิแสงบนจอให้เข้ากันกับสภาพแวดล้อม

ดังนั้น เวลาใช้งานบางทีหน้าจอจะอมเหลือง บางทีก็เป็นสีปกติ ..ซึ่งถ้าไม่ชอบ ก็ปิดฟีเจอร์นี้ได้

“ติ่ง”

แล้วแต่ใครจะเรียกยังไง ติ่งบ้าง รอยแหว่งบ้าง รอยบากบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้กังวลอยู่เหมือนกัน ใช้แล้วจะลำคาญสายตาไหม

แต่พอใช้งานจริง ไม่มีปัญหากับมันเลย เพราะเป็นส่วนที่อยู่บนสุด และไม่ได้บดบังอะไร

เพราะเวลาที่ใช้งานจริงๆ ส่วนใหญ่จะเพ่งไปที่กลางหน้าจอก่อน

ส่วนที่เป็น “ติ่ง” จริงๆแล้วมันคือ กล้อง TrueDepth ประกอบไปด้วยเซนเซอร์มากมาย หลักๆคือใช้ตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ และวัดระยะความลึก ทำให้รูปหน้าชัดหลังเบลอจากกล้องหน้าได้

Face ID

ระบบสแกนหน้า 3 มิติ สัมผัสแรกไม่ได้ว้าวเท่าไหร่ เพราะเคยใช้สแกนหน้าบนมือถือเครื่องอื่นมานานแล้ว ..ใช้สแกนหน้าบน iPhone X ตอนแรกๆก็ติดๆขัดๆ พอปรับตัวได้ก็รู้เลยว่านี่แหล่ะอนาคต

สำหรับผู้ใช้ใหม่ที่รู้สึกติดขัดในตอนแรกๆ  แต่เหมือนระบบมันค่อยๆเรียนรู้ใบหน้าเราด้วย จากที่สแกนไม่ค่อยติด ตอนนี้ก็ทำได้เร็วขึ้น โดยที่ไม่ได้ตั้งค่าใดๆเพิ่มเติม แต่ความเจ๋งจริงๆของมันคือ “ปิดไฟมืดๆก็สแกนได้” เพราะมีกล้องอินฟราเรด

คิดถึง Touch ID ไหม ?

ถามถ้าความรู้สึกตอนนี้ บอกเลยว่าชอบ Face ID มากกว่า แม้จะยังไม่รวดเร็วเท่า Touch ID แต่มันก็สะดวกกว่าจริงๆ

ระบบ iOS

สิ่งที่ทำให้คนใช้ iPhone จริงๆแล้วคือ iOS ระบบมันมีความไหลลื่น โดยเฉพาะกับเกม หลายคนเลือกใช้ไอโฟนเพราะต้องการเล่นเกมลื่นๆ

แต่ในส่วนของเกม ROV และแอพอีกหลายตัว ยังไม่อัพเดทสำหรับ iPhone X ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มหน้าจอ

แต่สำหรับ iOS 11 ที่อยู่ใน iPhone X จะมีการควบคุมที่แปลกกว่าเดิม หน้าจอที่ยาวขึ้น และลูกเล่นใหม่ของกล้องหน้า นอกนั้นก็ดูเหมือนๆไอโฟนรุ่นก่อน

ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลง

ถ้าจะสลับแอพ ให้ปัดหน้าจอขึ้น แล้วกดลากแอพให้อยู่ตรงกลาง และถ้าจะปิดแอพ ให้กดค้างก่อน แล้วค่อยกดปุ่ม (-) อีกที

Animoji

รองจาก Face ID ก็มีเจ้านี่แหล่ะ จัดเป็นลูกเล่นสุดเจ๋งของ iPhone X เป็นการใช้ประโยชน์จากกล้องหน้า 3 มิติ ให้ตัวการ์ตูนขยับปาก ทำสีหน้าท่าทางตามเราได้ แต่มีข้อจำกัดใช้ได้เฉพาะแอพ iMessage

แต่บันทึก Animoji เป็นวิดีโอ แล้วนำไปใช้กับแอพอื่นๆได้อยู่ ..เชื่อว่าในอนาคตจะมีแอพที่รองรับกล้องหน้า 3 มิติ แล้วจะเห็นอะไรที่เจ๋งๆมากกว่านี้

กล้องหลังที่ดีกว่า iPhone 8 Plus

ไม่ใช่แค่ดีกว่า iPhone 7 แต่ยังดีกว่ารุ่น 8 Plus ด้วย  เพราะ iPhone X มีกันสั่นคู่ และเลนส์เทเลมีรูรับแสงที่กว้างกว่า ตามสเปคแล้วรู้มาแค่นี้ แต่อย่างอื่นน่าจะพอๆกัน

ตัวอย่างภาพ

ซูมได้ 2 เท่าภาพไม่แตก

ภาพปกติ

ซูม 2 เท่า

ซูม 2 เท่าภาพไม่แตก เพราะมีเลนส์เทเล แต่ความคมของภาพจะไม่เท่ากันนะ เลนส์มุมกว้างจะถ่ายภาพได้คมชัดกว่า เพราะใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่และมีรูรับแสงที่กว้างกว่า

พอร์ทเทรท

โทนผิวเน้นความจริง อมส้มนิดๆ เป็นสไตล์ดั้งเดิมของ iPhone ถ้าอยากได้ขาวๆ คงต้องใช้แอพช่วย

เซลฟี่

ถ่ายกล้องหน้าทำภาพหน้าชัดหลังเบลอได้

ปรับแต่งพอร์ทเทรท

ระหว่างถ่ายรูปโหมด ภาพถ่ายบุคคล เราเลือกลักษณะของแสงไฟได้

ถ้าเลือกไฟแบบสตูดิโอ ฉากหลังจะถูกตัดออกเป็นพื้นสีดำ ..แต่มันดูตลกๆนะ และเขาบอกว่ายังเป็นแบบ beta อยู่

กันน้ำ

กันน้ำได้ในระดับ IP67 คือแช่น้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที

แต่ iPhone X ไม่ได้กันหล่นนะ ระวังหล่นด้วยจะดีที่สุด ค่าซ่อม/ค่าเคลมสุดโหด

แบต 2716 mAh

แบตให้มามากกว่า iPhone 8 Plus นิดหน่อย ใช้งานได้ยาวนานพอๆกัน

และ iPhone X รองรับชาร์จไวไฟด้วย แต่แท่นชาร์จจะเปิดขายปี 2018

มีเคสมากมาย

อีกหนึ่งข้อดีของการใช้ iPhone เปิดวางขายในไทยวันแรก มีเคสให้เลือกเยอะมาก เดินไปที่ร้านขายเคสมีให้เลือกเป็นแผง ..บนออนไลน์ก็มีอีกเยอะแยะนะ

บทสรุป iPhone X

• ตั้งแต่ใช้งานมา ไม่มีปัญหากับติ่งหน้าจอแต่อย่างใด
• การควบคุมแบบใหม่ สร้างความมึนงงในระยะแรก
• Face ID ทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ต้องให้เวลามันหน่อย
• กล้องหลังพัฒนาได้ดีขึ้นตามยุคสมัย แต่ถ้าอยากถ่ายรูปให้สนุก ต้องหาแอพมาใช้
• ยังมีหลายแอพ ที่ไม่รองรับการทำงานแบบเต็มหน้าจอ