กล้องมือถือก็ถ่ายรูปไฟล์ RAW ได้ แต่ไม่ใช่ทุกรุ่นนะ แอพที่ใช้ก็มีหลายตัว แต่ที่ชอบสุดคือ Lightroom เพราะสามารถถ่าย HDR แล้วบันทึกเป็น RAW ได้
วิธีถ่าย RAW
เข้าหน้าแรกแอพ Lightroom กดปุ่มถ่ายรูป
ดูข้างบน ถ้ามีคำว่า DNG นั่นคือมือถือเครื่องนี้ ถ่ายรูปไฟล์ RAW ได้
และยังสลับเป็น JPG ได้ โดยกดที่ DNG
โหมดถ่ายรูป
เริ่มต้นจะเป็นโหมดออโต้
เปลี่ยนเป็นแบบมืออาชีพ และ HDR (High Dynamic Range) ดูตามภาพ
อีกโหมดที่น่าสนใจคือ Long Exposure สำหรับถ่ายรูปกลางคืน แต่แนะนำให้มีขาตั้งกล้อง
และมีโหมด การจับความลึก (มีเฉพาะ iPhone) มันจะคล้ายๆโหมดพอร์ทเทรต แต่ลองดูแล้วไม่เวิร์ค เพราะปรับรูรับแสงไม่ได้
ตัวอย่างโหมดมืออาชีพ
ฟีเจอร์หลักๆได้แก่
- Exp ปรับชดเชยแสง
- Sec ปรับสปีดชัตเตอร์
- ISO ความไวแสง
- WB อุณหภูมิ
- ปรับโฟกัส
- และรีเซ็ต
ถ้าถามว่าใช้งานอย่างไร เรื่องยาวเลยนะ เอาเป็นว่าไว้มีโอกาสจะมาอธิบายอีกที
หรือลองกูเกิ้ลวิธีใช้โหมด M (หรือโหมดโปรบนกล้องมือถือ)
หลังจากถ่ายรูปเสร็จแล้ว ภาพจะถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ ภาพถ่าย LR Camera
การแต่งรูป
จะสามารถปรับแต่งแสงสีได้อย่างละเอียด เช่นเดียวกับการแต่งรูปไฟล์ RAW จากกล้องถ่ายรูป
แต่คุณภาพของไฟล์ RAW บนมือถือแต่ละเครื่องจะไม่เท่ากัน จะปรับแต่งได้สุดแค่ไหน ขึ้นอยู่กับรุ่นมือถือที่ใช้
ตัวอย่าง
รูปนี้ถ่ายแบบจบหลังกล้อง จาก iPhone XS
การถ่าย JPG กล้องมันจะแต่งช่วยให้ระดับหนึ่ง เอาไปแต่งต่อได้ แต่มีข้อจำกัดดึงแสงมากรายละเอียดอาจจะเสีย
ถ่าย JPG เหมาะกับคนชอบแต่งรูปเบาๆ มากกว่า
ถ่าย RAW เราอยากได้โทนไหน ก็ต้องมาปรับแต่งอีกที
ส่วนนี่คือ RAW หลังแต่ง
ถ่าย RAW เหมาะกับคนชอบแต่งรูปหนักๆ เช่น ถ่ายภาพวิว ภาพกลางคืน ไฟล์ RAW จะช่วยดึงรายละเอียดออกมาได้เยอะ