รีวิวเลนส์ Sigma 50mm f1.4 Art จากกล้อง EOS R

เลนส์ตัวแรกที่ผมซื้อใช้คู่กับกล้อง Canon EOS R ก็คือ Sigma 50 f1.4 Art ผมเป็นคนที่ชื่นชอบเลนส์ระยะนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยังไงเลนส์ตัวแรกที่จะซื้อก็ต้องเป็น 50mm

ที่ซื้อ Sigma 50mm f1.4 เพราะจะเอามาถ่ายพอร์ทเทรตล้วนๆเลยนะ ไม่คิดว่าจะเอาไปถ่ายรูปแนวอื่นๆ หรือเป็นเลนส์ติดกล้องท่องเที่ยวอะไรแบบนี้ เพราะมันหนักมาก

ความหนักของมันทำให้ผมเคยประกาศขาย และเอาไปเปลี่ยนกับเลนส์ตัวอื่นมาแล้ว ตอนนั้นใช้กับ Sony A7iii ลำพังติดเลนส์กับกล้องไม่หนักเท่าไหร่นะ พอถือได้อยู่

แต่พอใส่แฟลชเข้าไป น้ำหนักเลยเพิ่มขึ้น

กลับมาใช้ Sigma รอบนี้ ก็เลยไม่ใช้แฟลช จะพยายามแบกให้ชินก่อนค่อยใช้แฟลช

และก็ลดภาระการแบกหามด้วยการซื้อสายสะพายกล้อง Peak Design มาใช้ คือมันดีมาก ให้ฟิลเหมือนสะพายกระเป๋ากล้อง ช่วยทำงานได้คล่องตัวมาก

สายนี้มีข้อเสียอย่างเดียว ถ่ายรูปช่วงแรกๆจะรู้สึกเกะกะมาก จะคล้องสายแบบสายกล้องทั่วไปไม่ได้ ต้องเอามาคล้องกับฐานกล้อง (มีแถมมาในกล่อง) แต่พอชินแล้วจะเริ่มรู้สึกชอบ แบกเลนส์หนักๆได้สบายขึ้น

ตัวเลนส์

เทียบกับเลนส์ระยะ 50mm ด้วยกัน Sigma Art ตัวนี้ถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่

น้ำหนัก 815 กรัม หนักขนาดนี้ก็แน่นอนล่ะว่า มันไม่ได้ถูกสร้างมาไว้เป็นเลนส์ติดกล้องถ่ายรูปเล่นๆ เหมาะกับใช้ทำงานหรือถ่ายรูปจริงจังมากๆ

ถ้าเทียบกับ EOS R เลนส์ตัวนี้หนักกว่ากล้องอีกนะ EOS R หนักราวๆ 650 กรัม เวลาจับกล้องผมต้องประคองที่เลนส์ด้วย

สำหรับหน้าเลนส์ใหญ่มากขนาด 77 ใครที่จะซื้อเลนส์ตัวนี้ เตรียมงบไว้ซื้อฟิลเตอร์อีก 2-3 พันบาท เล่นเลนส์ระดับนี้แล้ว เลือกฟิลเตอร์คุณภาพสูงไปเลยครับ

ส่วนที่ไม่ชอบ

• นอกจากน้ำหนักแล้วมีอีกอย่างคือ ต่ออะแดปเตอร์ ทำให้เลนส์ดูยาวขึ้น

ส่วนที่ชอบ

• การออกแบบที่ดู “ทันสมัย” ดูเข้ากันกับ EOS R มากๆ ถ้าเทียบกับ EF 50 f1.2L ตัวนั้นดูโบราณมาก ติดกล้องแล้วดูไม่เข้ากัน ผมก็เลยเลือก Sigma (อาจจะเป็นเหตุผลที่ดูบ้าบอไปหน่อย) จริงๆตอนนั้นอยากได้ RF 50mm f1.2L แต่งบไม่ถึง
• มีปุ่มสลับโหมด AF / MF
• เอาไปใช้กับกล้องฟูจิได้ ?

กล้องฟูจิมีอะแดปเตอร์ต่อกับเลนส์ EF ได้ เคยเห็นข้อมูลผ่านๆว่าใช้เลนส์ Sigma ได้ ไม่แน่ใจว่าได้ทุกเลนส์มั้ย คนที่มีกล้องฟูจิด้วย ลองหาดูข้อมูลดูอีกทีนะ

ความเป็น 50mm

50mm เป็นระยะนอมอล ไม่กว้างไม่แคบ ได้มุมมองแบบที่สายตาโฟกัสได้ นั่นคือเราถ่ายในสิ่งที่เห็นได้เลย

ต่างกันกับเลนส์มุมกว้าง ที่ถ่ายภาพออกมาแล้วทุกอย่างจะดูเล็กลง หรือใช้เทเลจะทำให้วัตถุดูใหญ่ขึ้นได้ เพราะมันเป็นซูม จะมีการดึงฉากหลังเข้ามาไกล้ๆ

เทียบกับ APS-C มันก็คือเบนส์ระยะ 35mm

ถ้าจะกระโดดมาเล่นฟูลเฟรม โดยใช้ 50mm กับกล้อง APS-C มาก่อน แนะนำให้มองดูเลนส์ 85mm ดีกว่า ระยะการยืนและวิธีจัดองค์ประกอบจะคล้ายๆกัน

ถ้ายังเก็บเลนส์ 50mm f1.8 stm ไว้อยู่ ก็เอามาใช้ก่อน เคยขายไปแล้วก็ไปหามาใช้อีกได้

จะมาเริ่มต้นระยะ 50mm กับ Sigma โดยที่ยังไม่ชินกับเลนส์ระยะนี้บนฟูลเฟรมมาก่อน ไม่อยากแนะนำเท่าไหร่ ใช้แล้วอาจจะไม่ชอบก็ได้ เพราะ 50mm บนกล้องตัวคูณกับฟูลเฟรมมันต่างกันน่ะ

การทำงาน

โฟกัสเร็ว ไม่เร็วมาก

การทำงานโฟกัสได้รวดเร็ว ไม่ถึงกับเร็วมาก แต่ทำงานได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด

แม่นยำ

ใช้กับ EOS R ถ้าโฟกัสเข้า ก็ยิงเข้า เพราะเป็นกล้องมิเรอเลส

มีเสียงโฟกัส

จะได้ยินเสียงกึกกัก เฉพาะตอนใช้งานในที่ที่เงียบมากๆเท่านั้น เอาไปทำงานถ่ายรูปนอกบ้านหรือในสถานที่มีผู้คน จะไม่ได้ยินเสียงจากเลนส์ตัวนี้เลย

ภาพที่ได้

คมแบบไม่ต้องสงสัย

ในแง่ของความคมคือไว้ใจได้เลย ถ้าโฟกัสเข้ายังไงก็คม และใช้ได้ตั้งแต่ F1.4 นี่คือความเป็น Sigma Art ..ย้ำต้องเป็นตัว Art คุณภาพอัดแน่น ใช้ทำงานวางใจได้

ภาพใส

ภาพใสมาก อันนี้ต้องยกความดีงามให้กับ EOS R ด้วย ไม่ใช่ว่าใช้เลนส์นี้เอาไปใส่กับกล้องตัวไหนแล้วจะได้ภาพเหมือนกัน

ตอนที่ใช้กับ Sony A7iii ภาพที่ได้คมใสในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงขั้นใสกิ๊ง แต่ภาพจะดูนวลกว่า สำหรับผมนะถ่ายคนออกมาแล้วผิวดูดีเลยล่ะ ..ขณะเดียวกันถ้าใช้ Sony A7iii กับเลนส์ตัวอื่นๆอย่าง 85 f1.8 หรือกับเลนส์ที่คมๆอย่าง 55 f1.8 ภาพจะมีความขุ่นอยู่บ้าง ไม่ใสขนาดนี้

ฉะนั้นเลนส์มีส่วนอย่างมาก แต่เซ็นเซอร์กล้องก็มีส่วนไม่น้อย

ดูรีวิวเก่าๆ > พรีวิว ภาพถ่ายเลนส์ SIGMA 50mm F1.4 Art FE (กล้อง Sony A7iii)

ถ้าใช้กล้องรุ่นอื่นๆ ก็คงจะเปลี่ยนอีกแบบหนึ่ง ..ภาพที่ได้เกิดจากความคมใสของ Sigma + คาแรคเตอร์ของกล้องตัวนั้นๆ

..นี่ว่าจะลองเอาไปใส่กับ Fuji บ้าง เป็นค่ายที่มีคาแรคเตอร์ของไฟล์คล้ายๆกัน (ให้ภาพคมใส) แต่จะรอให้ X-T30 ขายก่อน เผื่ออะแดปเตอร์มันไม่รองรับ

ผิวไม่นวล ถ้าเทียบเลนส์ L

Sigma Art เป็นเลนส์ที่ให้ภาพมีมิติที่ดี แสงเงาและการเก็บรายละเอียดสมกับเป็นเลนส์เกรดโปร

แต่ไม่ใช่เลนส์ที่ให้ภาพดูนุ่มนวล หรือทำโทนผิวได้ดีเหมือนเลนส์ L ของ canon

คอนทราสต์มันจะค่อนข้างหนัก ฉะนั้นถ้าอยากได้โทนภาพที่เป็นสไตล์ canon แท้ๆ เลนส์ตัวนี้ยังไม่ตอบโจทย์นะ

ส่วนตัวพอรับได้อยู่กับโทนผิวประมาณนี้ รู้สึกชอบด้วยซ้ำไป แต่คิดอยู่ว่าสักวันก็ต้องได้ใช้เลนส์ L กับเขาบ้างล่ะ แต่อาจจะไม่ใช่ 50mm f1.2 L เพราะมีเลนส์ระยะนี้แล้ว

ที่มองๆไว้คือ 24-70 f2.8L ไม่ก็ 85 f1.2L ทั้งสองเป็นเลนส์ RF ที่มีข่าวว่ากำลังจะเปิดตัว

การละลายหลัง

ระยะ 50 คือเลนส์ระดับเริ่มต้นของสายพอร์ทเทรต ฉะนั้นการละลายหลังหายห่วง และยิ่งเป็น f1.4 ละลายหลังได้สบายๆ

แต่การละลายหลังของระยะ 50 มันจะละลายพอได้เห็นฉากหลังอยู่บ้าง เปิด F1.4 ถ้าไม่ถ่ายอยู่ไกล้แบบจนเกินไป ก็พอทำให้รู้ว่าถ่ายอยู่สถานที่ไหน

แต่ถ้าอยากได้เลนส์มาเน้นละลายหลังหนักๆ ไปเล่น 85 ดีกว่า พวกเลนส์เทเล แม้จะเป็น f1.8 ก็ละลายหลังได้ดีกว่ามาก

โบเก้

โบเก้ค่อนข้างกลม มีขนาดปานกลาง เลนส์ระยะ 50 ลูกโบเก้จะไม่ใหญ่มาก เพราะการดึงฉากหลังมันแค่ประมาณหนึ่งเท่านั้น

โบเก้ลูกใหญ่หรือเล็ก อยู่ที่ระยะห่างของแบบและฉากหลังด้วย ส่วนตัวเปิดที่ f1.4 แทบทุกรูป

พอใช้รูรับแสงที่แคบลง เช่น f4 ลูกโบเก้แค่เล็กลง ยังเป็นทรงกลมเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนรูปร่าง

การถ่ายในที่แสงน้อย

เคยใช้ถ่ายในที่แสงน้อยอย่างร้านตู้เกมส์ ไม่มีปัญหาโฟกัสวืด

ถ่ายวืดน่ะมีบ้าง แต่อยู่ในเปอร์เซ็นที่น้อย ก็เลยไม่คิดว่านี่จะเป็นปัญหา

และโฟกัสในที่มืดแบบที่คนทั่วไปเขาไม่ถ่ายกัน ก็ทำได้ ฉะนั้นในสถานการณ์ทั่วๆไปไม่น่าจะเป็นปัญหาครับ ยิ่งถ้าถ่ายพอร์ทเทรต ส่วนใหญ่ก็ถ่ายในที่ที่พอมีแสงไฟทั้งนั้น

การถ่ายย้อนแสง

แทบทุกงานที่ผมถ่าย จะต้องมีรูปย้อนแสง ด้วยเหตุนี้จึงเลือกเลนส์ที่เป็น f1.4

เลนส์ f1.4 มันจะช่วยให้โฟกัสแล้วหน้าสว่าง โดยไม่ต้องใช้เทคนิคชดเชยแสง แบบนั้นจะทำให้ภาพเสียรายละเอียด

ยังไม่เจอภาพป่องกลาง

เลนส์ระยะ 50 มี Distortion น้อยอยู่แล้ว แต่ก็มีเลนส์ 50 บางตัวที่มีอาการป่องกลาง ตรงกลางจะเป็นบวมๆ

แต่กับ Sigma 50mm f1.4 Art ตั้งแต่ถ่ายรูปมายังไม่เจออาการแบบนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะถ่าย JPG ด้วยมั้ง ถ้าหากมีกล้องจะแก้ไขให้ แต่ถ่าย RAW เลนส์มีอาการอะไร กล้องไม่แก้ให้เลย ไปแก้ใน Lightroom ได้

ภาพทั้งหมดเป็น JPG

ลืมบอกไป รีวิวนี้ไฟล์ภาพ JPG ล้วนๆ จบหลังกล้องทุกรูป ไม่มีการปรับแต่งเพิ่มความสว่างใดๆ

สำหรับการตั้งค่า เลือกโปรไฟล์พอร์ทเทรต และ F1.4 (บางรูปเป็นโหมด P) นอกนั้นก็ปล่อย Auto ไปเลย

ไม่ว่าจะใช้กล้องตัวไหน ส่วนตัวใช้โหมด A เป็นหลัก ถ่ายง่ายๆไม่ได้ใช้เทคนิคอะไรมาก กล้องมิเรอเลสมันฉลาดอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องการวัดแสง

สรุป

1. Sigma 50mm f1.4 Art เป็นเลนส์ระยะ 50 ที่ถือว่าหนัก แบกได้ก็แบก ด้วยคุณภาพและราคาแบบนี้ถือว่าคุ้ม
2. ให้ภาพคมใส แต่มีคอนทราสต์สูง และผิวไม่นวล ถ้าเทียบกับเลนส์ Canon L
3. ใช้กับ EOS R แล้วไม่รู้สึกติดขัดอะไร ก่อนซื้อไปลองที่ร้านนะ ถ้าใช้ได้ก็ถ่ายได้ ..แต่เห็นว่าเลนส์ Sigma บางตัว ถ้าไม่ได้อัพ FW จะใช้งานไม่ได้
4. ถ้าห่วงความหนักของเลนส์ แนะนำให้ซื้อสาย Peak Design มาใช้งานด้วย ห้อยคอแล้วเมื่อยจริงๆ แต่เปลี่ยนมาสะพายข้างแล้วรู้สึกสบายมาก

ตัวอย่างภาพถ่าย Sigma 50mm f1.4 Art