จุดเด่นของกล้อง Sony A7R IV เป็นฟูลเฟรมที่มีความละเอียดสูงมาก 61 ล้านพิกเซล ภาพคมใสเพราะไม่มี Low Pass Filter กริปขนาดใหญ่ จับได้มั่นคงมากขึ้น
ส่วนตัวใช้เป็นกล้องหลักในการทำงานมากสักพักแล้ว จับคู่กับเลนส์ตัวเล็กๆถ่ายเล่นบ้าง และแม้ว่ากล้องจะหนักถึง 665 กรัม แต่ยังให้ฟิลลิ่งการจับถือที่ดี พกไปถ่ายได้สบายๆ ไม่ถือว่าเป็นการ “แบก”
เพราะจุดเด่นอีกอย่างของ Sony ก็คือ “มีเลนส์ขนาดเล็ก” ให้เลือกใช้ ที่ชอบที่สุดคือ 28mm กับ 55mm พกไปไหนมาไหนด้วยกันได้ ไม่เป็นภาระการแบก เพราะเป็นเลนส์ที่เบาทั้งคู่
เหตุผลที่ซื้อ Sony A7R IV
- เทคโนโลยีจัดเต็ม มีกันสั่น ใส่การ์ดได้สองช่อง ไม่มี Low Pass Filter
- มีเลนส์ขนาดเล็กให้เลือกใช้ ทั้งเลนส์ค่าย และนอกค่ายในราคาที่เอื้อมถึง
- การดีไซน์หล่อ มีความเป็นมิเรอร์เลสสไตล์เรทโทร
- มีโหมด Super 35 เปลี่ยนมุมภาพเป็นแบบ APS-C ใช้งานง่าย ด้วยการตั้งเป็นปุ่ม Custom
- มี Eye AF ที่ไว้ใจได้ และโฟกัสเร็วในระดับที่พึงพอใจ
เหตุผลที่เกือบจะไม่ซื้อ
- ขนาดไฟล์ใหญ่มาก ถ่ายแบบบีบอัดยังใหญ่ถึง 60MB ไม่บีบอัดขนาดก็คูณสอง ขนาดไฟล์ถือว่าเกินความจำเป็น(สำหรับผมนะ) แต่มันไม่มีทางเลือก นอกจากจะไปซื้อ A7Riii ที่เป็นรุ่นเก่ากว่า
- สกินโทน Sony เทียบกับบางค่ายแล้วไม่สวยจริงๆนะ และโปรไฟล์สีของกล้อง ไม่เหมาะกับภาพถ่ายคนไทยเลย ..แต่ผมแก้ด้วยการทำโปรไฟล์สีมาใช้เอง เตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนซื้อกล้อง
เหตุผลของแต่ละคน ไม่เหมือนกันแน่นอน ส่วนตัวเป็นสายพอร์ทเทรตเน้นภ่ายภาพนิ่ง ให้ความสำคัญกับโทนภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง ข้อนี้ถ้าผมคิดแก้ปัญหาไม่ได้ คงจะไม่ลงทุนซื้อ A7R IV ที่ราคาเป็นแสน
รองลงมาเป็นเรื่องของการโฟกัส อันดีถือว่าทำได้ดีกว่า A7Riii และการออกแบบกล้องสไตล์เรทโทร ชอบกล้องทรงนี้มาแต่ไหนแต่แล้ว
สเปค Sony A7R IV
| รายละเอียด | |
| เซนเซอร์ | Exmor R CMOS ฟูลเฟรม 35 มม. ความละเอียด 61 ล้านพิกเซล |
| ไฟล์ภาพ | JPEG และ RAW 14 bit |
| โฟกัส | Fast Hybrid AF มีจุดโฟกัส 567 จุด มีโหมด Eye AF ทั้งคนและสัตว์ โฟกัสระบบสัมผัส ทัชเพื่อติดตาม |
| ช่องมองภาพ | กำลังขยาย 0.78 x และความละเอียด 5,760,000 จุด |
| หน้าจอ LCD | TFT ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1,440,000 จุด |
| ชัตเตอร์ | ภาพนิ่ง: 1/8000 ถึง 30 วินาที |
| กันสั่น | 5.5 สต็อป |
| ความไวแสง | ISO 100-32000 ขยายได้ 50 – 102400 |
| เสียง | ระบบสเตอริโอในตัว |
| แบต | NP-FZ100 ถ่ายได้ 670 ภาพต่อการชาร์จ |
| ทนอุณหภูมิ | 0 – 40 องศาเซลเซียส |
| น้ำหนัก | 665 กรัม |
บอดี้
ถ้าใช้ Sony A7 A9 มาก่อน เกือบทุกอย่างดูคล้ายๆเดิม ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก แต่ที่ทำได้โดดเด่นคือกริป และจอยสติกที่ทำมาให้ใช้งานสะดวกมากขึ้น
แต่คนที่ย้ายค่ายมา ทุกอย่างจะดูใหม่หมด แม้กระทั่งฟิลลิ่งของการจับถือ
ในส่วนของวัสดุ แน่น ดูพรีเมี่ยม และเขาบอกว่ามีการซีลกันน้ำกันฝุ่นที่ดีขึ้นกว่าเดิม
การจับถือ
สำหรับผม A7R IV ยังไม่ใช่กล้องที่จับแล้วเข้ามือทันที ต้องจับให้ชินอีกสักระยะ ถ้าใช้ Sony มาอย่างต่อเนื่อง คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก น่าจะรู้สึกจับถนัดมือมากขึ้นด้วยซ้ำ
แต่ถ้าย้ายค่ายมา ต้องปรับตัวหน่อย จับไปจับมามันจะเริ่มเข้ามือเอง
สกินโทน
สำหรับสายพอร์ทเทรต เรื่องนี้สำคัญมาก
ให้พูดตามตรง ผมมองว่าสกินโทน Sony ที่ทำมายังไม่โดนใจมากนัก โดยเฉพาะตัวโปรไฟล์ของ Sony เอง อันนั้นถือว่าใช้ไม่ได้เลย
ก็เลยต้องทำโปไฟล์ขึ้นมาเอง มีทั้งทำแจกฟรี ตอนนี้พัฒนามาจนสุดทางแล้ว ส่วนตัวที่ทำขายจะมีสีออกมาหลายแบบ
ตัวฟรีที่ทำแจกก็คือ โปรไฟล์สี Portrait Color V7 ให้ภาพดูใส โทนผิวดูมีชีวิตชีวา
แต่ตอนนี้ยังไม่ปล่อยโหลด ลองโหลดตัว Portrait Color V5 ไปใช้ก่อน
ต่างกับ Adobe Color สีจะตุ่นๆ ซึ่งทุกกล้องเป็นแบบนี้หมด ไม่ใช่แค่ Sony แต่แบรนด์อื่นเขาทำโปรไฟล์สีมาดี ก็เลือกใช้ตัวที่ติดมากับกล้องเลย
อีกตัวที่กำลังพัฒนาคือ Portrait Color Pro สกินโทนและสีสันดูเหมือนโปรไฟล์สีของ Canon มากๆ (อันนี้ไม่ฟรีนะ จะทำไว้ขาย) และจะทำเพิ่มอีก 3-4 แบบ เป็นชุดเซ็ตสำหรับคนที่อยากได้โทนใสใส สไตล์เอเชีย
ในชุดที่พัฒนาจะมี
- Portrait Color Pro
- Portrait Color Nature
- Portrait Color Classic
- Standard Color
สนใจสั่งซื้อผ่าน LINE ไอดี = magnum.x
ยังต้องชิพสีอยู่มั้ย ?
จนถึงรุ่นนี้ Sony ก็ยังให้สกินโทนที่ต่อนข้างอมเหลือง ซึ่งมันเป็นคาแรคเตอร์ของค่ายนี้ ก็ต้องทำใจยอมรับมันก่อนนะ
ส่วนตัวใช้วิธีชิพสีเบาๆ B 0.5 และ M 0.25 ส่วน AWB ก็ตั้งเป็นปกติเลย
ที่เหลือได้ภาพอย่างไรก็เอามาจัดการต่อใน Lightroom
Eye AF แบบเรียลไทม์
ถ้าใช้โหมด AF-C แล้วกดชัตเตอร์ค้างไว้ครึ่งหนึ่ง มันจะเกาะติดดวงตาไว้ตลอด แต่ถ้าไม่ได้กดค้าง มันจะจับหน้าค้างไว้
เป็นอะไรที่สะดวกสำหรับงานพอร์เทรต และโฟกัสได้เร็ว
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเลนส์ที่ใช้ เลนส์บางตัวโฟกัสช้าจนรู้สึกได้ เช่น FE 50mm f1.8 เคยใช้กับ A7miii มันเร็วดีนะ แต่พอใช้กับ A7R IV มันช้าซะอย่างงั้น น่าจะเป็นเพราะพิกเซลที่สูงมากหรือไม่ ?
แต่ใช้กับเลนส์เกรดธรรมดาตัวอื่นๆ 28mm f2 กับ 85mm f1.8 โฟกัสเร็วดี และ 35mm f1.8 ก็โฟกัสเร็วเหมือนกัน (ตัวหลังนี้เคยไปลองที่ร้าน ยังไม่ได้ซื้อ)
Eye AF ตาสัตว์ก็ได้นะ
ความแจ๋วของการโฟกัสดวงตา A7R IV ได้ทั้งคน สัตว์ และงานวิดีโอด้วยนะ
แต่ส่วนตัวไม่ได้ทำงานด้านวิดีโอเลย ไม่มีรีวิวส่วนนี้
ทัชโฟกัสได้
Sony A7R IV มีทั้งจอยสติกและทัชหน้าจอเพื่อโฟกัสได้ด้วย
ส่วนตัวไม่ได้ใช้จอยสติกเลย ชอบมองจอ LCD จะโฟกัสตรงไหนก็นิ้วจิ้มเอาเลย ง่ายดี
ไฟล์ RAW เป็นภาระมากมั้ย
ผมใช้ iPad Pro 2020 แต่งรูปเป็นหลัก ลองสลับมาแต่งบน iPhone 11 Pro Max และ Macbook Pro 2018 ก็ไม่มีปัญหาอะไร
สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าคือขนาดไฟล์ ถ้าไม่บีบอัดขนาดประมาณ 120MB และบีบอัดจะได้ขนาด 60MB
ถ้าบีบอัดและใช้โหมด Super 35 ไฟล์ก็เล็กลงเหลือ 20MB
ส่วนตัวได้วางแผนไว้แล้ว จะไม่ถ่ายสะเปะสะปะ พยายามเก็ยรูปไว้แค่ชอตสำคัญๆ
⚠️ แต่ที่น่าห่วงมากกว่าคือ “ความแรงของอินเตอร์เน็ต” โดยเฉพาะกับคนที่ใช้ Lightroom CC
- แอพจะเก็บรูปไว้บน Cloud
- ถ้าเน็ตไม่แรง ความจุของเครื่องอาจจะเต็มก่อนที่ไฟล์จะถูกอัพโหลดขึ้น Cloud
คุณภาพ RAW
เรื่อง DR ไว้ใจได้ ไฟล์มีความยืดหยุ่นสูง และยิ่งเป็นรุ่น R ด้วยแล้ว ถือว่าเป็นที่สุดของภาพนิ่ง
และแม้ว่าจะถ่ายพอร์ทเทรต จะไม่ได้จำเป็นต้องขุดมากเหมือนถ่ายวิว แต่จากการถ่ายรูปในหลายๆสถานการณ์ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ยกเว้นว่าจะมีการจัดแสง ใช้แฟลช อะไรแบบนี้ การขุดก็ไม่ได้มีความจำเป็น
อย่างภาพเป็นการถ่ายย้อนแสงแบบทั่วๆไป ถ้าไฟล์ไม่ดี ขุดเงาออกมาแบบนี้ผิวจะเป็นเทาๆ แต่งให้ดูเป็นธรรมชาติได้ยาก
**แต่เลนส์ก็สำคัญ ภาพนี้ถ้าใช้ 28mm f2 ไม่ใช่ 24mm f.14 gm ภาพจะไม่ใสแบบนี้
เสริมอีกอย่างคือ ถ่ายหลุดไฮไลต์แล้วมักจะดึงกลับไม่ได้ แต่ถ้าถ่ายมืดๆแล้วมาดึง ไม่มีปัญหา
ความคมชัด
ความคมขึ้นขึ้นอยู่กับเลนส์ที่ใช้ และเจ้า A7RIV เป็นกล้องที่เหมาะที่เหมาะกับเลนส์คุณภาพสูงอีกด้วย
ถ้าใช้เลนส์คุณภาพธรรมดาๆอย่างเช่น fe 28mm f2 ภาพที่ได้ต้องบอกว่าไม่สมกับกล้องเลย เคยใช้กับ A7miii รู้สึกภาพจะดีกว่านี้ แต่พอใช้กับ A7RIV เหมือนว่าภาพมันจะแย่ลง หลายๆจังหว่ะที่ถ่ายได้เหมือนภาพมันเบลอๆ
ประเด็นนี้อาจจะเป็นเพราะเลนส์ไม่เหมาะกับกล้องความละเอียดสูง
ส่วนเลนส์ FE ที่ใช้แล้วดี เห็นจะมีอยู่ 2 ตัวคือ 35mm f1.8 กับ 85mm f1.8
และถ้าเป็นพวก G, GM และ Zeiss พวกนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง
เลนส์ที่ผมใช้ติดกล้องตอนนี้เป็น 24mm f1.4 GM มันให้คุณภาพที่ดีในทุกๆด้าน เรื่องความคมไม่ต้องห่วง แต่ส่วนสำคัญคือ “สี” ทุกๆภาพผมถ่ายมาเพื่อแต่งอยู่แล้ว แต่ถ้าภาพต้นฉบับให้สีที่ดี เวลาแต่งรูปก็จะง่าย
สีไม่ดีก็จะแต่งยาก แม้ว่ากล้องจะดีก็ตาม เพราะงั้นผมอยากแนะนำว่าถ้าจะขึ้นมาเล่นกล้องตัวนี้ หรือย้ายค่ายมา ควรจะวางแผนซื้อเลนส์ GM ด้วยสักตัว
มีดีที่โหมด Super 35
สิ่งที่ทำให้ผมชอบกล้องตัวนี้ที่สุด เพราะมีโหมด Super 35 มันจะครอบมุมภาพ น่าจะคูณ 1.5 ทำให้ได้ระยะเท่ากับกล้อง APS-C มันเหมือนทำให้เราได้ใช้เลนส์ 2 ตัว และผมก็ใช้โหมดนี้บ่อย เพราะช่วยจัดองค์ประกอบภาพได้ง่าย
เช่น ถ้าติดเลนส์ 24mm พอใช้โหมด Super 35 ก็จะได้มุมภาพระยะ 35mm
แต่พอใช้โหมดนี้ ความละเอียดกล้องจะลดลงเหลือ 26 ล้านพิกเซล แต่ก็เพียงพอสำหรับใช้งานแน่นอน พวกกล้องตัวคูณรุ่นท็อปๆ ความละเอียดก็ประมาณนี้แหละ
อีกประเด็น !!
กล้องฟูลเฟรมตัวอื่นก็มีโหมดนี้เหมือนกัน แต่ของ Sony มันดีตรงที่เราตั้งปุ่มบนกล้องให้เป็นโหมดนี้ได้ ส่วนตัวก็ตั้งไว้ที่ปุ่ม C1
จอ LCD สีค่อนข้างตรง
สีจอ LCD ของกล้อง Sony A7R IV ถือว่าดีใช้ได้เลยนะ ไม่ติดแดง ไม่หลุดไฮไลต์
ที่ต้องย้ำเพราะถ้าจอสีไม่ดีมันสร้างปัญหาได้จริงๆ เอาแค่จะชดเชยแสงเพิ่ม ต้องส่องดู EVF ตลอด เพราะถ้าดู LCD อาจจะได้รูปที่แสงโอเวอร์โดยไม่รู้ตัว
แต่กล้องตัวนี้ ไม่มีกั๊กสเปคจอ รวมทั้ง A7riii ที่ผมเคยใช้ สีจอ LCD ก็ไว้ใจได้
เลนส์เล็กถ่ายสนุก
ส่วนตัวชอบเลนส์ตัวเล็กๆของ Sony มากๆ ถ้าถ่ายพอร์ทเทรตผมมีตัวโปรดอยู่ก็คือ 55mm f1.8za อีกตัวที่ไม่ค่อยเล็กเท่าไหร่ แต่มันเล็กสุดในตระกูล GM นั่นคือก็คือ 24mm f1.4
ใช้เลนส์ 24mm f1.4 GM ติดกล้องถ่ายรูปมาสักแล้ว ระยะมันถ่ายง่าย ใช้คู่กับ 55mm f1.8 โดยใส่กระเป๋าไปด้วยกัน พอที่จะแบกได้ ไม่เป็นภาระเท่าไหร่
และบางช่วงเลนส์ที่ใช้บ่อยสุดคือ 85mm f.18 แต่มีแผนจะอัพไปเล่น Sigma 85mm f1.4 Art ตัวใหม่ ที่น้ำหนักแค่ 620 กรัม คิดว่าจะได้จัดมาสักวัน แต่ตอนนี้คือเพิ่งหมดเงินไปกับกล้องและเลนส์ GM
เกี่ยวกับเลนส์ FE 85 f1.8
แม้ว่าระดับชั้นจะจัดอยู่ในกลุ่มเลนส์ธรรมดาๆของค่าย แต่สีสันและความคม ผมว่ามันดี เทียบเลนส์ระดับโปรได้เลย
ส่วนที่มันแพ้ ก็ตอน “ถ่ายย้อนแสง” บางทีภาพฟุ้งมาก และเอามาแก้ไขทำโทนได้ยาก สำหรับผมนะเลนส์ดีหรือไม่ วัดกันตอนเอาไปถ่ายย้อนแสงนี่แหล่ะ
กันสั่น 5.5 สตอป
สองรูปนี้ลองถ่ายแบบไม่ใช้ขาตั้งกล้องมาให้ดูเฉยๆ พอกล้องมีกันสั่นก็ทำให้มั่นใจว่าจะเล่นอะไรแบบนี้ได้
ในส่วนของการถ่ายพอร์ทเทรตตอนกลางวัน อาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากกันสั่นเท่าไหร่ แต่กับการถ่ายกลางคืน พอกล้องมีกันสั่นก็ทำให้กล้าใช้สปีดชัตเตอร์ที่ต่ำๆ จะได้ไม่ต้องดัน ISO ให้สูง
แต่ถ้าถ่ายวิดีโอ กันสั่นมันช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น จะเอาแบบนุ่มนวลเลยก็ต้องใช้กิมบอลอยู่ดี
เสียงชัตเตอร์นุ่มนวล
ชอบเสียงชัตเตอร์แบบนี้มากๆเลยนะ มีความสุนทรีย์ เป็นเสียงที่ดูไม่รบกวนคนอื่นมากนัก (แต่กล้องมีโหมดปิดเสียงอยู่)
⚠️ แต่ในแง่ของการถ่ายพอร์ทเทรต บางทีก็เหมือนจะเป็นปัญหาบ้าง พอถ่ายรูปนอกอาคาร ถ้าใช้เลนส์เทเลอย่าง 85mm นางแบบไม่ได้ยินเสียงเลย ..นางแบบบางคนถ้าได้ยินเสียงแล้วเขาจะเปลี่ยนท่า
พอเจอแบบนี้ผมจะอาศัยวิธีขยับกล้อง นางแบบจะรู้แล้วว่าจะต้องเปลี่ยนท่า
ช่องเสียบการ์ดคู่
ส่วนตัวใช้แบบการ์ดเดียวมาตลอด ก็ยังไม่เคยเจอปัญหาการ์ดพัง เพราะเลือกใช้การ์ดคุณภาพดีมาตลอด
กล้อง Sony A7R IV มันเสียบการ์ดได้ 2 ช่อง โอกาสที่จะถ่ายรูป แล้วการ์ดพังจนไม่ได้รูปยิ่งน้อยลงไปอีก
และเลือกได้จะบันทึก RAW กับ Jpeg แยกไว้การ์ดช่องไหนบ้าง
แบต
ถือว่าอึดใช้ได้เลย ผมถ่ายรูปงานหนึ่งใช้เวลา 2 ชั่วโมง ชาร์จแบตครั้งเดียว ถ่ายได้ถึง 3 งาน
ทั้งนี้ก็อยู่ที่วิธีใช้ด้วย ส่วนตัวชอบมองจอ LCD มากกว่าช่อง EVF ก็เลยประหยัดแบตมากกว่า
สรุปข้อดี/ข้อเสีย Sony A7R IV
- ✅ Sony เป็นค่ายที่มีเลนส์มิเรอร์เลสให้เล่นเยอะมาก อันนี้ขอยกให้เป็นจุดเด่นและข้อดีหลักๆเลย
- ✅ มีเลนส์เยอะไม่พอ ยังมีเลนส์ขนาดเล็กและคม ให้เลือกใช้อีกด้วย เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการแบก
- ✅ ชอบปุ่ม Custom มากๆ เพิ่มฟีเจอร์ได้เยอะ รวมทั้งตั้งปุ่มให้โหมด APS-C ได้ อันนี้รักสุดๆ
- ✅ ไฟล์ใหญ่มาก ใช้โหมด Crop ก็ถือว่ายังได้ความละเอียดที่สูง พอๆกับกล้อง APS-C รุ่นท็อปๆ
- ✅ แบตอึดมาก ถ่ายได้ 3 งานต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
- 🤔 เรื่องของสกินโทนติดเหลือง ก็ต้องเข้าใจก่อนว่ามันเป็นคาแรคเตอร์ของ Sony ถ้าเก่งหน่อยก็แก้โดยใช้ Picture Profile หลายคนใช้วิธีชิพสี ส่วนผมใช้โปรไฟล์ Lightroom ที่ทำขึ้นมาเอง
- 🤔 ถ้าย้ายค่ายมา อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวกับการจับถือกล้อง จับครั้งแรกไม่เข้ามือเลย ต้องให้ชินก่อน
- ⚠️ หลุดไฮไลต์ได้ง่ายๆ และหลายชอตดึงคืนมาได้ ส่วนตัวก็จะไม่ค่อยชดเชยแสง ไม่มืดเกินไป เอามาดึงได้
- ⚠️ ก่อนซื้อคุณต้องวางแผนเรื่องการจัดเก็บและบริหารไฟล์ด้วย เอาจริงแค่ไฟล์ 47 ล้านพิกเซล ของ A7RIII ก็ใหญ่มากแล้ว แต่
พรีวิวภาพ Sony A7R IV กับเลนส์ต่างๆ
ถ่าย Raw และทำโทนด้วย Lightroom ทุกภาพ
