Sony 55mm f1.8 ZA เป็นเลนส์เล็กเบา ถ่ายรูปได้คมใส ส่วนตัวเอามาถ่ายพอร์ทเทรต ไม่ได้ใช้ถ่ายรูปแนวอื่นๆเลย
ที่ผมใช้เลนส์ตัวนี้ถ่ายพอร์ทเทรต เพราะมีความถนัดและชื่นชอบในระยะนี้อยู่แล้ว ก่อนซื้อก็มั่นใจล่ะว่าจะเอามาใช้งานได้ทันที ใช้ทำงานได้เลย ไม่ต้องซ้อมก่อน
แต่ถ้าใครยังไม่เคยใช้เลนส์ระยะ 50 เลย แต่อยากได้เลนส์มาถ่ายพอร์ทเทต แนะนำหาอ่านรีวิวเลนส์ 85 ควบคู่ไปด้วย
เพราะ 55mm f1.8 ถือเป็นเลนส์ระยะนอม่อล ใช้ถ่ายได้หลากหลาย มุมมองไม่กว้างไม่แคบเกินไป ต่างกับ 85 หรือเลนส์เทเลตัวอื่นๆ ที่เขาทำมาเพื่องานพอร์ทเทรทโดยเฉพาะ ดังนั้นโทนผิวอะไรต่างๆมันก็จะออกมาดีกว่า เลนส์ไม่ได้ต่างกันระยะไกล้ไกล
สเปคเลนส์
- ชื่อเต็ม Sonnar T* FE 55mm F1.8 ZA
- รูรับแสง F1.8-F22
- มุมมองภาพ 43 องศา
- โฟกัสไกล้สุด 0.5 เมตร
- ขนาดฟิลเตอร์ 49 มม.
- 281 กรัม
ราคาเลนส์
- Sony Zeiss FE 55 mm f1.8 ราคา 32,990 บาท
ราคา 50mm ตัวอื่นๆ
- Sony FE 50mm f1.8 ราคา 11,990 บาท
- Sony FE 50 mm f2.8 Macro ราคา 19,990 บาท
- Samyang 50 mm f1.4 ราคา 24,990 บาท
- Sigma 50mm F1.4 DG HSM I Art ราคา 32,900 บาท
- Sony Zeiss Planar FE 50 mm f1.4 ราคา 59,990 บาท
ก่อนหน้านี้
ใช้เลนส์ FE 50mm f1.8 ถ่ายมาหลายเดือน แล้วเปลี่ยนมาใช้ Sigma 50mm f1.4 Art ได้เกือบๆเดือน แต่แบกไม่ไหว เลยแลก 55mm f1.8 ZA มาใช้งาน
กับเลนส์ 50mm f1.4 ถ้าใส่แค่กับกล้องเพียวๆ ก็พอไหวอยู่นะ แต่พอใส่แฟลชไปด้วย เริ่มรู้สึกเลยว่าน้ำหนักมันเกินลิมิตที่ตัวเองรับได้
จริงๆก่อนหน้านั้นวางแผนจะซื้อ Sigma ตัวอื่นมาใช้ด้วยซ้ำไป เพราะชอบในความคม ภาพดูใส โทนผิวดี โบเก้สวย ความบิดเบี้ยวแทบไม่มี
ถ้าให้เทียบ 55mm f1.8 ตัวนี้แพ้ทุกอย่างนะ ดีกว่าอย่างเดียวก็คือน้ำหนักเบา มันทำให้ใช้งานสะดวก
เอาไว้ถ้าได้ถ่ายงานสตูบ่อยๆ คิดว่าจะกลับไปซื้อ Sigma มาใช้ งาน outdoor ก็ใช้ 55mm f1.8 ถ่ายรูป
แต่จะไม่กลับไปใช้ตัว FE 50mm f1.8 อีกแล้ว เพราะติดในเรื่องของความคม พอได้ขึ้นไปแล้วรู้สึกไม่อยากลงมาที่เดิม
แม้ว่าจะเปลี่ยนจาก Sigma มาใช้ 55mm f1.8 จะเป็นการลดสเปคลงทุกอย่าง แต่ความคมมันพอสู้กันได้ ก็เลยใช้ต่อมาเรื่อยๆจนถึงวันนี้
เล็กเบา
จุดเด่นหลักๆของมันอยู่ตรงนี้ เล็กเบาพกพาง่าย ใช้เป็นเลนส์ติดกล้องได้เลย และด้วยระยะของมันก็ใช้ถ่ายรูปได้หลากหลายอยู่แล้ว
แต่ส่วนตัวเอาเลนส์นี้มาถ่ายคนอย่างเดียว ไม่ค่อยได้ใช้ถ่ายรูปทั่วไป ถ้าถ่ายทั่วๆไปผมชอบมุมของ 28 กับ 35 มากกว่า
55mm f.8 ใส่กับ Sony A7iii
การตั้งค่ากล้อง
ทุกภาพต่อไปนี้ ใช้การตั้งค่า..
- โหมด A ค่ารูรับแสง f1.8
- ISO Auto
- โหมดพอร์ทเทรท
- โหมดโฟกัส AF-S (บางรูปใช้ AF-C)
- สมดุลแสงสีขาว A-B : B1 และ G-M : M0.5
- วัดแสงหลายจุด
และไม่ได้ใช้แฟลช ยกเว้นรูปที่ถ่ายในสตูดิโอ
โฟกัสไว
จับโฟกัสได้ไวและแม่น ยิ่งใส่กับ Sony A7III ไม่ต้องเรื่องนี้ 50mm f1.8 ที่ว่าช้าๆ มันยังเร็ว
การจับจังหว่ะสำคัญๆ ยังไงก็ไม่พลาด เลนส์มันเร็วอยู่แล้ว ใช้กับกล้องรุ่นใหม่ก็เร็วขึ้นไปอีก ก็อยู่ที่มือแล้วล่ะ กดทันหรือป่าว
ส่วนตัวตั้งค่าถ่ายรูปไว้ที่โหมด 1 กับ 2
โหมด 1 ตั้งค่าสำหรับถ่ายภาพนิ่ง โดยใช้โหมด A ตั้งค่ารูรับแสง F1.8
ส่วนโหมด 2 ตั้งให้มันถ่ายรูปได้รัวๆ ใช้โหมด A เหมือนกัน เพียงแต่ปรับโฟกัสเป็นแบบโฟกัสต่อเนื่อง และถ่ายรูปรัวๆได้
ความคม
ยิงเข้ายังไงก็คม ถ้าโฟกัสเข้าตา ก็ไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมทำคมเพิ่ม รายละเอียดผิวบนหน้าก็มาเต็ม ซึ่งเหมือนจะได้ที่ดูมีมิติดี แต่สาวๆไม่ชอบหรอก แม้แต่ผมเอง อยากได้ผิวสวยๆ ยังไงก็ต้องแต่งรูปอยู่ดี
ย้อนแสง
ช่วงนี้อากาศดี ได้ถ่ายย้อนแสงบ่อย ที่ f1.8 ถือว่าใช้ได้ ผมเปิดรูรับแสงกว้างสุดตลอด และไม่ค่อยได้ใช้แฟลช นานๆทีจะพกแฟลช
เคยมีบ้างนะที่ใช้แฟลชถ่ายรูป หลังๆมาไม่ค่อยได้ใช้ ขี้เกียจพกมันเกะกะ
รูปถ่ายนี้ไม่ได้ใช้แฟลนะ เลือกถ่ายช่วง 5 โมงเย็น ก็จะได้รูปตัวคนที่สว่างๆ
แสงรั่ว
แต่การย้อนแสงด้วยเลนส์ตัวนี้ บางทีจะเจอรูปแบบแสงที่แปลกๆ
รูปแบบแสงที่เป็นดาบเลเซอร์ชี้ลงมาแบบนี้ เจอบ่อย
ทั้งนี้อยู่ที่มุมถ่าย ปรับมุมถ่ายดีๆก็จะไม่มีแสงแบบนี้ในรูป
โทนผิว
ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ถึงกับดีงาม
ข้อดีคือเก็บรายละเอียดได้ดี ข้อเสียคือจบหลังกล้องให้สวยๆได้ยาก ภาพจะดูแข็งๆหน่อยนึง แม้ว่าใช้โหมดพอร์ทเทรตก็ตาม
แต่ส่วนตัวเน้นใช้รูปไฟล์ RAW ทำงาน ก็เลยไม่ได้ซีเรียสกับประเด็นนี้
ถ้าผมเน้น JPG คงไม่ซื้อ 55mm f1.8 มาใช้ตั้งแต่แรก อาจจะยอมทนแบก Sigma 50mm f1.4 ต่อไป
..แต่จะว่าไปตัวกล้องอย่าง Sony A7iii มันก็ไม่เหมาะกับจบหลังกล้องอยู่แล้ว ถ้าเคยจับกล้องที่จบหลังกล้องได้ดีมาก่อน จะไม่รู้สึกว่า A7iii ถ่ายสวย สีหน้าจอก็เพี้ยนอีก ทำให้ไม่รู้ว่าที่ถ่ายมามันจะเป็นแบบที่เห็นหรือปล่าว
ขอบมืด
ถ้าถ่าย JPG จะไม่มีขอบมืด แต่ถ้าถ่าย RAW มีเล็กน้อย
แต่พอเอา RAW เข้าแอพ Lightroom มันจะถูกลบออกให้อัตโนมัติ
การละลายหลัง
ถ่ายพอร์ทเทรต 55mm f1.8 ละลายหลังสวยๆได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่ถ้าอยากได้ละลายหลังมากๆ ควรใช้ระยะ 85mm ขึ้นไป
ด้วยระยะของมันไม่ใช้เลนส์สายพอร์ทเทรตโดยตรง เลนส์ตัวนี้จริงๆแล้วใช้เป็นเลนส์ติดกล้อง ถ่ายภาพทั่วไปได้
แต่ที่ผมชอบใช้เลนส์ 50 เพราะไม่ได้เน้นละลายหลังอย่างเดียว ชอบให้มีบรรยากาศในภาพ
สำหรับคนที่มีคำถามคาใจ 85 หรือ 55 ดี แนะนำไปลองตัว 85 เลยดีกว่า ไปให้มันหายคาใจ ไปให้สุด ลองแล้วไม่ชอบขายต่อมาซื้อ 55 ก็ได้
เต็มตัว
ครึ่งตัว
ระยะไกล้
ระยะห่าง
พอๆกับใช้ 50mm f.18 อยู่ห่างกันไม่กี่ก้าวก็ถ่ายรูปได้แล้ว ไม่ได้ใช้พื้นที่มาก ถ่ายสะดวกทั้งในและนอกอาคาร
แต่ถ้าจะใช้เลนส์ตัวนี้ ไปออกทริปถ่ายรูปกับช่างภาพคนอื่นๆ ลองๆพิจารณาเลนส์ระยะ 85 ไว้ด้วยก็ดี ช่างภาพส่วนใหญ่ใช้ 85 เวลาถ่ายจะไม่บังกัน
ระยะ 55 พอที่จะถ่ายสตูฯห้องเล็กๆได้ เป็นข้อที่ได้เปรียบเลนส์ 85 เหมาะกับการถ่ายในสถานที่ต้องใช้พื้นที่มาก
ยิ่งถ้าเป็นฟูลเฟรม ระยะห่างมันจะไกลขึ้นมาอีก เป็น 80cm
รูปไฟล์ RAW
ขอย้ำอีกครั้งว่าถ้าชอบผิวเนียนๆ สวยๆ อย่าเลือกเลนส์ตัวนี้ แม้ว่าจะถ่ายเป็น RAW แล้วเอามาแต่งก็ตาม ..ไม่ใช่ว่าพอเป็น RAW ภาพจากทุกเลนส์จะเหมือนกันหมดนะ
RAW จากเลนส์ Sony 55mm f1.8 ZA ให้โทนผิวที่ดูแข็งๆ
แต่ข้อนี้ผมรู้อยู่แล้ว รู้ก่อนซื้อด้วย แต่ที่เลือกเลนส์ตัวนี้ส่วนหนึ่งเพราะแนวทางการถ่ายและแต่งภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบวินเทจ ฟิล์ม สตรีทบ้าง
ก็เลยไม่ซีเรียส ผิวไม่อมชมพู เกลี่ยผิวไม่สวยไม่เป็นไร ขอภาพคมๆไว้ก่อน
ส่วนตัวชอบไฟล์ RAW ของ Sony A7iii มากๆ มันยืดหยุ่นแต่ทำโทนได้สนุก
และการที่มีเลนส์ดีๆอย่าง 55mm f1.8 ก็ทำให้การแต่งภาพง่ายขึ้นไปอีก โดยเวลาเปิดเงาบนผิวหน้า สว่างสมใจ
แต่ถ้าเป็นเลนส์คุณภาพต่ำกว่า เวลาเปิดเงาผิวอาจจะติดสีม่วง หรือมีรายละเอียดบางอย่างที่หายไป
สรุป
- ยังไม่ลองถ่ายพอร์ทเทรตกลางคืนเลย
- โฟกัสไว น้ำหนักเบา ความคมใช้ได้
- อย่าคาดหวังกับโทนผิวมากนัก แม้จะใช้โหมดพอร์ทเทรตก็ตาม
- โดยรวมก็ถือว่าดี ผมชอบมากเลยล่ะ แต่ยังไม่ใช่ตัวจบนะ ยังมีเลนส์ 50 ที่ดีกว่านี้
ตัวอย่างรูป
