iPhone 11 กับรุ่น 11 Pro ราคาห่างกันถึง 11,000 บาท สิ่งที่ต่างกันหลักๆ ก็มีกล้อง การกันน้ำ หน้าจอ และแบต ที่รุ่น 11 Pro จะดีกว่า นอกนั้นเหมือนๆกัน

ราคา

  • iPhone 11 ราคา 24,900 บาท
  • iPhone 11 Pro ราคา 35,900 บาท
  • iPhone 11 Pro Max ราคา 39,900 บาท

บอดี้

iPhone 11

iPhone 11 มีให้เลือก 6 สี

ม่วง เหลือง เขียว ดำ ขาว และแดง

ดีไซน์แบบกระจกและอะลูมิเนียม

iPhone 11 Pro

iPhone 11 Pro มีให้เลือก 4 สี

ทอง เขียวมิดไนท์กรีน เงิน และเทาสเปซเกรย์

ดีไซน์แบบกระจกผิวด้านและสแตนเลสสตีล

หน้าจอ

เทียบขนาดจอ iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max
  • iPhone 11 จอภาพ Liquid Retina HD ขนาด 6.1 นิ้ว
  • iPhone 11 Pro จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 5.8 นิ้ว
  • iPhone 11 Pro Max จอภาพ Super Retina XDR ขนาด 6.5 นิ้ว

หน้าจอของ iPhone 11 Pro เป็นแบบ OLED และมีความละเอียดสูง และแสดงความสว่างได้สูงกว่า

ขณะที่จอของ iPhone 11 เป็น LCD สเปคก็แบบเดียวกับ iPhone XR

การทนน้ำ

  • iPhone 11 ทนน้ำถึงระดับความลึก 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที
  • iPhone 11 Pro ทนน้ำถึงระดับความลึก 4 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที

⚠️ แนะนำ
การที่มือถือมันทนน้ำได้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะเอาไปจุ่มเล่นน้ำได้ เพราะประกันไม่ครอบคลุม หากมีน้ำเข้า ถ้าเอาไปเคลมจะได้จ่ายหนักกว่าทำจอแตกอีก

การทนน้ำเหมาะกับป้องกันอุบัติเหตุมากกว่า หรือโดนน้ำแบบไม่ตั้งใจ เพราะมีหลายคนเอาไปเล่นน้ำแล้วเครื่องมีปัญหา และไม่ใช่แค่ iPhone นะ มือถือรุ่นไหนก็มักจะมีดราม่าประเด็นนี้อยู่เสมอๆ

แบต

เทียบเวลากัน ..ถ้าเล่นวิดีโอ

  • iPhone 11 ใช้ได้นานสูงสุด 17 ชั่วโมง
  • iPhone 11 Pro ใช้ได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง
  • iPhone 11 Pro Max ใช้ได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง

จะเห็นว่า iPhone XS Max ใช้ได้นานกว่าทุกรุ่น และอึดมากกว่ารุ่น XS Max ถึง 5 ชั่วโมง

แต่มีส่วนที่ดีงามคือ รองรับชาร์จเร็วทั้งคู่

กล้อง

ต่างกันแค่ iPhone 11 Pro มีมากกว่า 1 เลนส์ แต่ที่เซอร์ไพร์สคือ iPhone 11 มีการเพิ่มเลนส์อัลตร้าไวด์เข้ามา (จากที่คาดกันว่าจะเป็นเลนส์เทเล)

กล้องหลัง iPhone 11

iPhone 11

  • กล้องคู่แบบอัลตร้าไวด์และไวด์ ความละเอียด 12MP
  • อัลตร้าไวด์ 13mm รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 
  • ไวด์ 26mm รูรับแสงขนาด ƒ/1.8
กล้องหลัง iPhone 11 Pro

iPhone 11 Pro และ Max

  • สามกล้องแบบอัลตร้าไวด์, ไวด์ และเทเลโฟโต้ ความละเอียด 12MP
  • อัลตร้าไวด์ 13mm รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 
  • ไวด์ 26mm รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 
  • เทเลโฟโต้ 52mm รูรับแสงขนาด ƒ/2.0

ทั้งสามกล้องใช้เซนเซอร์คนละตัว ส่วนเลนส์หลักคือ “เลนส์ไวด์” จะให้ภาพคมชัดที่สุด

ความจุ

  • iPhone 11 มีความจุ 64GB, 128GB และ 256GB
  • iPhone 11 Pro มีความจุ 64GB, 256GB และ 512GB

นอกนั้นเหมือนๆกัน

  • เครื่องไหนก็แรง เพราะใช้ชิพ A13 Bionic เหมือนกัน
  • ถ่ายภาพกลางคืนไม่โดนล้อแล้ว เพราะมี Night Mode
  • ถ่ายวิดีโอ 4k ได้สูงสุด 60 fps พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล
  • กล้องหน้าเหมือนกันทุกประการ มี Face ID
  • ระบบซิมคู่ (Nano-SIM และ eSIM)
  • พอร์ต Lightning

สรุป แบบไหนคุ้ม ?

ตอบยากนะ แต่ถ้าเป็นผมจะคิดแบบนี้

  • ใช้งานทั่วๆไป เช่น ฟังเพลง ดูหนัง โซเชียล เล่นเกม เลือก iPhone 11
  • ใช้งานทั่วๆไป + เน้นความหรู และชอบถ่ายรูปด้วย เลือก iPhone 11 Pro
  • ทำงานจริงจัง เช่น แคสเกม ทำ VLOG ตัดต่อวิดีโอ แต่งรูป ฯลฯ เลือก iPhone 11 Pro Max

จริงๆ iPhone 11 Pro และ Pro Max มันก็ทำอะไรได้เหมือนกัน ไม่มีอะไรต่างกันนอกจากแบตที่นานขึ้น

แต่การที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น การทำงานก็จะสะดวกมากขึ้น