เหตุที่มีกล้องหลายตัว เพราะจะเอามาใช้ลองโทนสี ทำพรีเซ็ตต่างๆด้วย ถ้าจะใช้กล้องแค่ตัวเดียว เดี๋ยวคนอื่นจะแต่งรูปตามได้ไม่เหมือน
ตอนนี้ผมมีกล้องที่ใช้ทำงานอยู่ 3 ตัวหลักๆ สลับไปมาแล้วแต่ว่าอยากได้ฟิลลิ่งแบบไหน ไม่ว่าจะเป็น Canon EOS R, Fuji XT30 หรือ Sony A7Riii ทุกตัวมันมีดีของมัน
อีกอย่างคือ กล้องมันไม่ได้แพงมาก ถ้าเทียบกับเลนส์ ไม่คิดว่าจะเก็บเลนส์ให้ครบทุกช่วง เท่าที่ใช้ประจำมีแค่ 35mm กับ 50mm (ของฟูลเฟรม) ..ก็เลยมีกล้องหลายค่ายได้ โดยที่ไม่รู้สึกเป็นภาระ
สำหรับโพสต์นี้..
จะเป็นการเทียบการใช้กล้องแบบส่วนตัวมากๆ ไม่ได้เทียบสเปคกล้อง แต่จะเล่าในแง่ของความรู้สึกจากการใช้ล้วนๆ และมีส่วนที่เป็นข้อมูลทั่วไปบ้างเล็กน้อย
FujiFilm XT30
ตอนหัดถ่ายรูปใหม่ๆ ผมใช้ฟูจิเป็นกล้องตัวแรก เคยใช้ทั้งกล้องคอมแพ็คตัวเล็กๆ รวมทั้งแบบ DSLR-Like จนมาถึงตอนที่ออกกล้อง X-T10 ก็ซื้อตัวนี้มาใช้ และเริ่มถ่ายภาพแบบจริงจัง
กับค่ายนี้ก็ใช้มาหลายรุ่น X-A3 X-A5 X-T20 จนมาถึงตัวล่าสุด X-T30 คือมันเป็นกล้องที่แบบเอาไว้ถ่ายสนุกๆได้ เอาไว้ถ่ายทำงานก็ดี
จุดเด่นคือเลนส์หลายตัวมันเล็กมาก ใช้กระเป๋าใบเล็กๆ ใส่กล้อง 1 และเลนส์ได้อีก 3 ตัว ถ้าไปออกทริปเดินไกลหลายกิโลนี่คือชิลมาก
แม้ว่าเซ็นเซอร๋จะมีขนาด APS-C แต่งานที่ออกมา สู้กับกล้องฟูลเฟรมได้สบายๆ ในที่แสงน้อยไม่ต้องห่วง มีเลนส์ f1.2 กับ f1.4 ให้ใช้ และส่วนใหญ่เป็นเบนส์เกรดโปร
สำหรับผมฟูจิเป็นกล้องเล็กที่ไม่ได้ด้อยกว่าค่ายไหน ที่เหลือก็เป็นเรื่องของฝีมือผู้ใช้แล้วแหล่ะ จะทำภาพออกมาได้ดีแค่ไหน
การใช้งาน
ผมจะเลือกใช้กล้องฟูจิในสถานการณ์ที่อยากจะรู้สึกสบาย ถือกล้องฟูจิ X-T30 ติดเลนส์ 35mm f1.4 หรือ 56mm f1.2 ..จะไม่ใช้คำว่าแบก เพราะมันเบามาก
ส่วนใหญ่จะเอาไปถ่ายที่คาเฟ่ หรือทริปที่ต้องเดินไกลๆ หรือบางทีถ้าช่วงนั้นต้องทำงานหนัก แล้วมีคิวต้องถ่ายรูป เลือกกล้องฟูจิไปใช้งานจะรู้สึกไม่เหนื่อยมาก
และเวลาถ่ายรูปส่วนใหญ่จะถ่ายเป็นไฟล์ JPG แต่ถ้าเป็นภาพวิวก็จะถ่าย RAW
ฟูจิจะขึ้นชื่อว่าเป็นค่ายกล้องที่ทำไฟล์ JPG ออกมาได้สวยงาม สำหรับผมมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าแสงดีๆก็แทบจะจบหลังกล้องได้ ..ตรงกันข้ามกับไฟล์ RAW ถ่ายคนไม่ค่อยสวย โดยเฉพาะถ้าแต่งในแอพ Lightroom
ไม่ใช่ทุกกล้องที่ถ่าย JPG ออกมาแล้วจะเอามาแต่งแบบนี้ได้ หรือแม้ว่าจะถ่ายไฟล์ RAW ก็เอามาแต่งให้เหมือนได้ยาก
เพราะกล้องมันก็เหมือนโปรแกรมตัวหนึ่งที่ใช้ประมวลผลภาพออกมา พอภาพต้นฉบับออกมาดี ก็เอามาแต่งต่อได้ง่าย
แต่อย่างที่บอก ถ้าจะเน้นถ่าย RAW ผมไม่อยากแนะนำกล้องตัวนี้นะ มันแต่งออกมาให้สวยได้ยาก จะรู้สึกเหนื่อยเลยล่ะ
ส่วนเลนส์ที่ใช้ถ่ายพอร์ทเทรตประจำจะเป็น 35mm f1.4 กับ 23mm f1.4 นานๆทีจะหยิบ 56mm f1.2 มาใช้
“ยกเว้นถ่ายภาพวิว ผมว่า RAW ฟูจิ ไม่ได้แย่”
เลนส์ที่ผมชอบใช้ถ่ายวิวก็จะเป็น 10-24 f4 เลนส์มีกันสั่น ถ้าสปีดชัตเตอร์ไม่ต่ำเกินไป ถือถ่ายได้สบายๆ และเป็นเลนส์อีกตัวที่ชอบมากๆ
แต่พอเป็นการถ่ายที่ “คาเฟ่” เลนส์ที่ใช้บ่อยๆจะเป็น 23mm f1.4 ได้มุมกว้างกำลังดี จัดองค์ประกอบง่าย ละลายหลังสวยใช้ได้
แต่ถ่ายแนวคาเฟ่ผมจะถ่ายเป็นไฟล์ JPG นะ ทางร้านเขาคุมแสงไว้ให้แล้ว การแต่งรูปไม่จำเป็นต้องดึงมาก ที่เหลือก็แค่เลือกมุมถ่ายดีๆ
Canon EOS R
ส่วนตัวถือว่าเป็น “มือใหม่” ของค่าย Canon เพิ่งจะได้กล้องตัวนี้มาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 62 นี้เอง ที่เลือกใช้ตัวนี้เพราะชอบโทนผิว และระบบคือดีน่าใช้ที่สุดจากกล้องตัวอื่นที่เคยใช้มาทุกตัว
กล้องตัวนี้มีหน้าจอระบบสัมผัสเต็มรูปแบบ ทั้งโฟกัสถ่ายรูปและกดเข้าเมนูได้ การสัมผัสค่อนข้างดี ไม่ติดๆขัดๆ
เด็ดสุดก็คือโทนผิว ผมยกให้เป็น Number 1 ถ้าถ่ายแนวพอร์ทเทรต นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุด
ถ้าเทียบไฟล์ JPG กับกล้อง Fuji ผมชอบ Canon มากกว่า
มันดีตรงที่ไฟล์ JPG มีความยืดหยุ่น ใช้แต่งรูปได้สนุก ทำอะไรได้มากกว่าไฟล์ JPG ของฟูจิ ..รวมทั้งไฟล์ RAW ของแคนนอนเอง ก็ไม่ได้มีปัญหากับ Lightroom แบบฟูจิ
แต่กล้องกับเลนส์ของ EOS R มันหนักมาก ก็เลยเลือกใช้งานอย่างจำกัด
การใช้งาน
สำหรับกล้องตัวนี้ ผมเอาใช้ “ถ่ายพอร์ทเทรตล้วนๆ” ไม่คิดจะเอาไปถ่ายเล่นเลย ลองแบกกล้องเดินเล่นแล้วไม่สนุก
เพราะเลนส์ที่ใช้คือ Sigma 35 กับ 50 f1.4 Art ทั้งคู่
Sigma Art เป็นเลนส์ตัวโปรดเลยนะ แต่มีน้ำหนักมาก ส่วนเลนส์ RF ของแคนนอน ทั้งแพงและหนักเช่นกัน ก็เลยยังไม่ได้ซื้อ มีเบาอยู่ตัวเดียวคือ 35mm f1.8 แต่ผมไม่ได้ใช้
จริงๆก็มีเลนส์เบาๆอยู่คือพวก EF สำหรับ DSLR แต่คุณภาพมันไม่ถึงใจ ตัวที่ดีๆมันก็หนักและแพงไม่แพ้เลนส์ RF
สุดท้ายก็เลยมาจบที่ Sigma เป็นเลนส์ที่ผมใช้ถ่ายพอร์ทเทรตมากที่สุดของปีนี้
ภาพจากกล้อง EOS R + Sigma คมใส เอามาทำโทนได้สนุก การโฟกัสรวดเร็วไม่รู้สึกติดขัด
และด้วยความเป็นเลนส์ f1.4 ถ่ายย้อนแสงหน้าสว่างได้ง่ายมาก ถ่ายย้อนแสงอะไรงี้สร้างความมั่นใจได้มาก
เพราะผมถ่าย JPG ด้วย ไม่ได้ถ่ายเพื่อจะเอามาขุด ฉะนั้นเลนส์มันต้อง f1.4 ถึงจะเอาอยู่
จริงๆ Canon ก็มีเลนส์ RF ที่เป็น f 1.2 ด้วยนะ แต่ราคามันสูงมาก เอาไว้รวยกว่านี้ก่อน จะซื้อมาลองอยู่สักตัว
“ถ้าให้เลือกระหว่าง X-T30 กับ EOS R”
สำหรับงานพอร์ทเทรต ขอเรียนตามตรงว่า EOS R ต้องมาก่อน เพราะ JPG มันยืดหยุ่นกว่า RAW ก็ดีกว่า ขึ้นชื่อว่าฟูลเฟรมยังไงก็สร้างความมั่นใจให้มากกว่า
แต่ถ้าเป็นช่วงที่รู้สึกเหนื่อย แล้วต้องออกไปถ่ายรูป ผมจะหยิบ X-T30 ไปนะ มันใช้แทนกันได้ แม้จะไม่ดีเท่า
แต่ถ้าจะถ่ายเล่น ถ่ายคาเฟ่ X-T30 เพียงพออยู่แล้ว ไม่ต้องถึงกับ EOS R
Sony A7R III
อยากจะบอกว่าผมเพิ่งซื้อ A7R III มาได้ไม่กี่วัน แต่ไม่ได้เป็นมือใหม่ Sony หรอกนะ เคยใช้ A7 III มาเกือบๆปี ก่อนจะขายไปใช้ Canon
แต่รอบนี้ไม่ได้ย้ายค่าย ก็ซื้อมาเพิ่มเลย เพราะมีเลนส์ส่วนหนึ่งเก็บไว้อยู่ อีกทั้งเลนส์ Sigma ที่ใช้กับ EOS R ก็เอามาใช้ร่วมกันได้
เหตุผลที่กลับมาใช้ Sony เพราะ
- อยากได้กล้อง + เลนส์เล็กๆ ที่เป็นฟูลเฟรม ใส่กระเป๋าใบเล็กได้
- รู้สึกคาใจกับไฟล์กล้อง Sony เลยเลือก A7R III เพราะให้ภาพคมใสที่สุด
- ในสภาวะอากาศที่แย่ เช่น ช่วงฝนตกท้องฟ้าหม่นๆ กล้อง X-T30 เอาไม่อยู่ คือมันถ่ายได้นะ ความคมใส ความโดดเด่นของตัวแบบดรอปลง จริงๆเอา EOS R ไปใช้ได้ เพราะลองดูแล้ว ฟ้าหม่นๆมีฝนตก แต่โทนผิวยังดูคมใสเหมือนเดิม ..แต่บางทีก็เหนือ่ยไง อยากจับถืออะไรเบาๆบ้าง
- เอากล้องไปแต่งเป็นแนวเรทโทรได้ (ตอนนี้เริ่มซื้อสาย ถ้าว่างว่าจะหาเคส ไม่ก็เอาไปติดสติกเกอร์)
เลนส์ที่มีอยู่คือ 28 f2, 50 f1.8, 85mm f1.8 และตัวโปรด 55 f1.8 za คิดว่าในอนาคตจะได้ซื้อ 35mm f1.8 ที่เพิ่งออกมาใหม่ และ 17-28 f2.8 ไม่ก็ 16-35 f4
การใช้งาน
เพิ่งจะผ่านมา 2 งานเอง แต่ก็พอมองเห็นอะไรได้ ถ้าเทียบกับ A7 III ที่เคยใช้ พอเปลี่ยนมาเป็นรุ่น R ที่แพงกว่า ..ก็รับรู้ได้เลยว่า ราคาที่ห่างกัน 4 หมื่นบาท มันสะท้อนคำว่า “คุณภาพตามราคา” ได้อย่างชัดเจน
ไฟล์ A7R III คมใสกว่ามาก ไฟล์ RAW ดีมากเลย แต่จะเอาไปแต่งให้สวยๆได้ต้องออกแรงมากหน่อย ส่วน JPG ก็พอใช้ได้ แต่ต้องปรับแต่งสีกล้อง
ส่วนตัวก็กำลังพยายามทำให้กล้องมันทำ JPG ออกมาให้สวยที่สุด เท่าที่มันจะทำได้ เพราะไม่ค่อยอยากถ่าย RAW ยกเว้นถ่ายวิวแล้วต้องขุดไฟล์หนักๆ ถึงตอนนั้นค่อยนำ RAW มาใช้
“ใช้งาน A7R III ครั้งแรกประทับใจ ต่างจาก A7MIII ใช้ครั้งแรกเหมือนคิดว่าซื้อกล้องมาผิด”
ยังจำฟิลลิ่งตอนซื้อ A7MIII มาใหม่ๆ ตอนนั้นตื่นเต้นกับเทคโนโลยีมาก เพราะมันสุดจริงๆของยุคนั้น แต่ไฟล์ภาพที่ได้โครตผิดหวัง ต้องมาเซ็ตนั่นโน่นนี่ และชิปค่าสีไม่ให้ติดเหลือง
กว่าจะลงตัวได้ก็ใช้เวลาอยู่นาน
พอมาเป็น A7R3 ก็เลยไม่วุ่นวายมาก เพราะมีประสบการณ์กับกล้องโซนี่มาแล้ว
และส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันไม่มี Low Pass Filter มันถึงดีกว่า ภาพดูสว่างคมใสแบบไม่รู้สึกติดขัดอะไรแล้ว
🤔 ที่สำคัญจอ LCD ของ A7RIII มันให้สีที่สมจริงกว่า A7MIII ตัวนี้จอติดแดง สีค่อนข้างหลอกตา
ตัวอย่างไฟล์ JPG ไม่ตกแต่ง
จะเห็นว่า Sony ถ่าย JPG สวยๆก็พอได้ แต่ต้องเป็น A7R ด้วยนะ ..ถ้าเป็น A7m2 หรือ 3 ภาพไม่ได้ใสขนาดนี้
กับกล้อง A7m3 ต้องใช้เลนส์ตัวท็อปๆ หรือ Sigma Art ก็ได้ จะให้ภาพคมใสและผิวสวยเช่นกัน ถ้าใช้เลนส์เกรดทั่วไปของค่าย ในหลายๆงานของผมแสงมันดรอปและภาพมันขุ่นๆ ไม่ใส
ถ้าต้นฉบับดี ก็เอาภาพมาแต่งสวยได้ง่ายๆ รูปเซ็ตนี้เป็น JPG หมดเลยนะ แล้วเอามาแต่ง ส่วนตัวรู้สึกพอใจอย่างมาก
แม้ว่าเลนส์บางตัวจะถ่ายคนได้ไม่ดีเท่าไหร่
อย่าง 55mm f1.8 za ตัวนี้ให้ภาพสุดคม แต่คอนทราสต์มันสูง ภาพที่ได้ค่อนข้างกระด้าง เกลี่ยผิวไม่สวย จริงๆแล้วมันไม่เหมาะกับการถ่ายคนด้วยซ้ำ
แต่ผมชอบระยะ 50mm มากๆ แล้วตัวนี้มันเล็กเบา โฟกัสไว เทียบกับ Sigma 50mm f1.4 ART ตัวนี้ถือว่ามีราคาที่อยู่ในระดับเดียวกัน
แต่ Sigma มันหนัก ผมถึงต้องมี 55mm f1.8 มาเสริม เอาไว้ถ่ายในวันที่ต้องการความสบาย หรือจะใช้เลนส์หลายระยะ
28 f2, 55 f1.8 และ 85 f1.8 เอาใส่กระเป๋าสะพายข้างใบเดียวได้
วิจารณ์และคำถาม
Sony เทคโนโลยีดีสุด
อันนี้ใช่ มาเหนือกว่า ไม่ว่าจะเป็น eye af ที่ตอนนี้โฟกัสตาสัตว์ได้แล้ว กันสั่น 5 แกน RAW 14 บิต Dynamic Range 15 stop ออกกล้องใหม่มา แม้จะเป็นตัวรองเขาก็จัดเต็มให้ไม่แพ้กัน
การใช้งานเป็นอีกประเด็น
ไม่ใช่ว่าสเปคดีสุดจะเป็นกล้องที่ดีที่สุดเสมอไป พูดถึงการใช้งานระหว่างถ่ายก็ถือเป็น “เรื่องของใครของมัน” เป็นสิ่งที่จะให้ใครมาตัดสินแทนเราไม่ได้
เช่น การจับถือ การใช้จอพับ การใช้เมนู หน้าจอสัมผัส ฯลฯ
สำหรับผมนะ Canon EOS R ให้ความสะดวกสบายสุด ตั้งแต่การจับถือที่ให้ฟิลแบบ DSLR มีวงแหวนช่วยปรับแต่ค่ารูรับแสง + สปีดชัตเตอร์ได้แบบทันใจ จอพับที่เหมาะมากกับการถ่ายพอร์ทเทรตแนวตั้ง เมนูก็เข้าใจง่าย ที่สำคัญจอสัมผัสแบบเต็มระบบ กดเข้าเมนูแบบสัมผัสได้
ส่วนตัวไม่ได้ยึดติดกับตัวกล้องมากท่าไหร่ เป็นคนมือเล็กด้วย ก็เลยใช้กล้องอะไรก็ได้ อย่าง A7R3 ที่มีช่างภาพบางส่วนบอกจับถือไม่ถนัด เขาถึงออกตัว A7R4 ที่มีกริปใหญ่ขึ้น
แต่ผมกลับชอบกริปแบบ A7R3 มากกว่าก็เลยเลือกใช้รุ่นนี้ แทนที่จะซื้อรุ่นใหม่แล้วใช้ไปอีกยาวๆ ..ผมถึงบอกว่าการใช้งานมันเป็นเรื่องของใครของมันจริงๆ
ฟูจิมีดีที่ระบบ
ทุกวันนี้ราคากล้องฟูลเฟรมมันก็เข้ามาเบียดๆฟูจิแล้วนะ แต่คนก็ยังซื้อมาใช้อยู่ แทนที่จะซื้อฟูลเฟรมในราคาที่ไกล้เคียงกัน
แต่ถ้ามองดูทั้งระบบแล้ว จะเห็นว่าเลนส์ฟูจิไม่ได้มีขนาดหญ่โต กระเป๋าใบเล็กๆยัดกล้องกับเลนส์อีก 3 ตัวยังได้ เช่น 23mm f1.4 35mm f1.4 และ 56mm f1.2 เดินถือเที่ยวสบายๆ ไม่เป็นภาระ
มิติภาพ เช่น การไล่โทน แสง เงา การจัดการจุดรบกวน เบียดๆฟูลเฟรมได้ แบบว่าบางทีถ้าเอาภาพมาเทียบกัน อันไหนกล้องฟูลเฟรม อันไหนกล้อง APS-C
ที่เป็นรองหลักๆ ก็เป็นเรื่องของการละลายหลัง กับในช่วงแสงน้อย ฟูลเฟรม(รุ่นใหม่) จะมาเหนือกว่า ..กล้องฟูลเฟรมรุ่นเก่า Noise เยอะกว่ากล้องฟูจิอีกนะ
Canon เน้นเลนส์
ถ้าอยากใช้ฟูลเฟรม แต่อยากได้เลนส์เล็กเบา EOS R ยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เลนส์ RF ที่เบาๆมีแค่ตัวเดียวคือ 35mm f1.8 นอกนั้นคือมีแต่ RF ตัวท็อป หนักและแพงเหมาะกับมือโปรมากกว่ามือสมัครเล่น
ถ้าจะเอา EF ตัวเล็ก ของ DSLR เช่น 50mm f1.8 หรือ 1.4 เอามาใส่กับ EOS R แล้วไม่เวิร์คนะ มันไม่สมน้ำสมเนื้อ
ไม่มีเงินซื้อ RF ตัวท็อป ใช้ Sigma Art แบบผมก็พอได้ แต่ก็มีแต่ตัวหนักๆนะ
Sony ฟูลเฟรมเล็กเบาได้
เลนส์ตัวท็อปหนักๆก็มี แต่สำหรับสายชิลเขาก็มีเลนส์ตัวเล็กๆให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น 28mm f2, 35mm f1.8, 50mm f1.8 และ 85mm f1.8 เลนส์พวกนี้ราคา 1-2 หมื่น
เลนส์เกรดดีๆเบาๆหน่อยก็พอมี เช่น 55mm f1.8, 24-70mm f4, 16-35 f4, 24mm f1.4 และเลนส์นอกค่ายของ Tamron น่าจะถูกใจคนที่เน้นการพกพา
ถ่ายพอร์ทเทรตโทนผิวยกให้ Canon
รสนิยมส่วนตัวนะ EOS R เป็นกล้องถ่ายสาวที่ให้โทนผิวถูกใจมากๆ อันดับ 2 ยกให้ฟูจิ และ 3 เป็น Sony
แต่ Sony อย่างที่บอก โทนผิวไม่ได้แย่ แต่ต้องเป็น A7R3 ภาพถึงจะดูคมใส ตั้งค่าดีๆก็จะได้ภาพที่โดนใจ
สายขุดให้ Sony
สำหรับสายแลนด์ ยังไงก็ Sony โดยเฉพาะ A7R3 มันเกิดมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ทั้งความละเอียดสูง และมีฟีเจอร์รวมภาพให้มีความละเอียดสูงขึ้นได้อีก
เรื่องขุดไม่ต้องห่วง ไฟล์ RAW คือดีมาก
Eye AF ชอบของฟูจิ
eye af ของ X-T30 เกาะติดดี ถ่ายเต็มตัวได้ ..ในส่วนของ A7R3 ก็ดีอยู่นะ แต่มันไม่หนึบเหมือน A7m3 แต่มันดีตรงที่ถ่ายตาสัตว์ เป็นอะไรที่ล้ำดี ถ้าบ้านมีหมาแมวจะต้องชอบกล้องตัวนี้
ในส่วนของ EOS R มันได้แค่ครึ่งตัว แต่ถามว่ามีปัญหามั้ย ก็ไม่นะ ในระยะเต็มตัวจะโฟกัสแค่หน้าก็ไม่มีปัญหา ถ้าหน้าชัด ตาก็ไม่เบลออยู่แล้ว เพราะ DOF ไม่ได้บางขนาดนั้น
ต่างจากระยะครึ่งตัว จำเป็นต้องมี eye af จะได้ไม่มีปัญหาจมูกชัดตาเบลอ
ระยะ 50 ชอบภาพของฟูจิ
ส่วนตัวถนัดใช้เลนส์ระยะ 50mm ที่สุด ซึ่งของฟูจิจะเป็นเลนส์ 35mm (คูณ 1.5)
เพราะ 35mm ของฟูจิ มันก็คือ ภาพที่ถูกครอปของ 35mm บนฟูลเฟรม ดังนั้นการละลายหลัง ระยะโฟกัส และ Perspective มันจะเหมือนกัน ..ฝรั่งเขาถึงเรียก crop factor
คิดง่ายๆ มันคือ 35mm ที่ถูกครอป
เหตุผลที่ชอบ 50mm ของฟูลเฟรมน้อยกว่า เพราะเลนส์ระยะนี้ถ่ายคนแล้วดู “อ้วนและเตี้ย” ถ้าทำมุมไม่ดีจะเป็นแบบนั้นเลย
แต่ระยะ 50mm เป็นมุมที่ผมชอบ เพราะมันไม่เน้นแบบมากเกินไป ถ่ายคนละลายหลังแม้จะเปิดที่ f1.4 ก็ยังพอเห็นฉากหลังอยู่ รองลงมาก็ 35mm
ระยะที่ถ่ายคนสวยสำหรับผมคือ 35mm และ 85mm
A7R3 มีดีที่การครอบ
ความละเอียดกล้องมัน 42 ล้าน ใช้โหมด APS-C ก็จะคูณไปอีก แต่ความละเอียดยังเหลือเฟือสำหรับการใช้งาน ทำให้ใส่เลนส์ฟิกตัวเดียว แต่ใช้งานได้ 2 ระยะ
ข้อดีของไฟล์ 42 ล้าน มันก็ทำอะไรได้เยอะดี
แต่ข้อเสียคือถ้าจะถ่าย RAW โดยเฉพาะถ้าจะถ่ายแบบไม่บีบอัด ไฟล์จะใหญ่มาก อุปกรณ์ที่ใช้แต่งรูปก็ต้องพร้อมนะ
ย้ายค่ายดีมั้ย ?
Canon กับ Fuji ไฟล์ภาพคมใสคล้ายๆกัน ถ้าเอาภาพมาปนๆกัน บางทีผมแยกไม่ออกว่าภาพจากกล้องตัวไหน ถ้าจะย้ายไปมาระหว่าง 2 นี้ ส่วนตัวคิดว่าไม่มีอะไรที่ติดค้าง ส่วนเรื่องระบบยังไงก็ต้องได้เรียนรู้ใหม่
แต่ถ้าจะย้ายไป Sony แนะนำให้ซื้อมาลองก่อน ถูกใจแล้วค่อยเทขายค่ายเดิม
แต่ถ้าใช้ Canon จะใช้ร่วมกับค่ายไหนก็ได้นะ เพราะเอาเลนส์ไปใช้กับ Fuji และ Sony ได้ผ่านทางอะแดปเตอร์
สรุป
- ถ้าถามกล้องตัวไหนดีสุด บอกเลยว่ายังไม่มี จริงๆชอบฟูจิมากๆ แต่พี่แกไม่ทำฟูลเฟรม ก็เลยต้องเล่นของค่ายอื่น เพราะรุ่นท็อปสุดของฟูจิเป็น Medium format ถือเป็นภาระเกินไปสำหรับผม
- สำหรับงานพอร์ทเทรต ถ้าวันไหนแรงเยอะ เซ็ตกล้องที่ดีสุดสำหรับผมคือ EOS R + Sigma 50mm f1.4 ART / หรือ 35 วันไหนเหนื่อยๆ หรือเป็นเซ็ตที่ต้องเดินไกลก็จะจัด Sony A7R3 + 55mm f1.8 และวันไหนอยากชิล ถ่ายเล่นๆไม่เน้นผลมาก ก็จะใช้ X-T30 + 35mm f1.4/ 23mm f1.4 และบางทีเบื่อๆจะหยิบ 56mm f1.2 ติดไปด้วย
- สำหรับการถ่ายคาเฟ่ จะจัด X-T30 + 23mm f1.4 และถ้าร้านไหนมีแสงไฟ อยากได้โบเก้จะจัด 56mm f1.2 ไปด้วย
- ถ่ายวิวกว้างๆ X-T30 + 10-24 f4 เซ็ตนี้เดินเที่ยว 10 กิโลฯ ยังรู้สึกชิวๆอยู่ ..อนาคตอาจจะซื้อ 16-35 f4 ไม่ก็ 17-28 F4 สำหรับ Sony มาใช้ เป็นเซ็ตที่เดินเล่นสบายๆได้อยู่ แต่ยังไม่คิดจะซื้อของฝั่ง canon เลนส์ไม่น่าจะเบา
- กล้องตัวไหนมันก็ดีหมด แต่อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้มันแบบไหน
